วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555


แบบฝึกหัด โทรคมนาคมเพื่อการศึกษา


1.โทรคมนาคม หมายถึงอะไร และมีประโยชน์ทางการศึกษาอะไรบ้าง

ตอบ การส่งสารสนเทศในรูปแบบของตัวอักษร ภาพ เสียงโดยใช้กระบวนการที่หลากหลาย เช่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า หรือเคเบิลใยแก้วนำแสง ดาวเทียม เป็นต้น ไปยังผู้รับสารที่ต้องการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ

2.การใช้ Facebook เป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาหรือไม่ ถ้าเป็นจงยกตัวอย่างประโยชน์ของ Facebook

ตอบ เป็น เพราะจัดเป็นโทรคมนาคมการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างประโยชน์ของ Facebook เช่น
               1)  ใช้ติดต่อสื่อสารหากันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
               2)  สามารถเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูลได้ทั้งตัวอักษร รูปภาพ วีดีโอ ฯลฯ
               3)  สามารถส่งข้อความถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่าย
               4)  สามารถเข้าไปเรียนสิ่งต่างๆที่เราสนใจได้ผ่านทางFacebook
               5)  สามารถสร้างกลุ่มเพื่อง่ายต่อการติดต่อสนทนา


3.นิสิตสามารถรับชมโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมได้ด้วยวิธีทางใดบ้าง

ตอบ ผ่านทางระบบ DSTV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียม ในย่านความถี่ KU-Band ที่เป็นระบบเดียวกับ ทรูวิชั่นส์ ซึ่งสามารถซื้อ ชุดรับสัญญาณดาวเทียม กับตัวแทนจำหน่ายของ ทรูวิชั่นส์ ได้ทั่วไป โดยไม่เสียค่าบริการรายเดือน โดยมีราคาประมาณชุดละ 12,000 บาท หรือหากมีเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม ที่สามารถรับย่าน KU-Band ได้ ก็สามารถรับชมได้ เพราะระบบออกอากาศของสถานีฯ มิได้มีการเข้ารหัสไว้ จึงไม่ต้องใช้ Smart Card ในการรับชมรายการและผ่านทางระบบ CATV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล ซี่งสามารถรับชมได้ ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล แต่สามารถรับชมรายการได้เพียง 7 ช่อง และต้องเสียค่าบริการรายเดือน กับบริษัทเคเบิลทีวีที่ให้บริการ สามารถใช้ประโยชน์จากการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม โดยวิธีการศึกษาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้อีกทางหนึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในด้านเนื้อหาวิชา (Free-of-charge Web-based Information Content) ทั้งในระบบรายการถ่ายทอดสด (Live Broadcast) และระบบรายการตามคำสั่ง (On Demand) ทางเว็บไซต์ของ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และ สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม

4.ประโยชน์ของโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ    1)  ในด้านการศึกษา เพื่อแก้ไขการประสบปัญหาการขาดแคลนครูที่สอนระดับมัธยมศึกษาตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนที่อยู่บริเวณชายแดน
           2)  ใช้ประโยชน์ได้ทั้งกับการศึกษาในระบบโรงเรียน และการศึกษาตามอัธยาศัยหรือการศึกษานอกระบบโรงเรียน รวมทั้งผู้สนใจศึกษาทั่วไป
           3)  แก้ปัญหาด้านระยะทางที่มีผลต่อการได้รับการศึกษา
           4)  นักเรียนที่อยู่ห่างไกลมีสิทธิ์ได้รับการศึกษาที่เท่าทียมกับนักเรียนในตัวเมืองมากยิ่งขึ้น
           5)  ช่วยให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างทันเหตการณ์


5.นิสิตรับชมรายการจาก http://www.youtube.com/watch?v=OvUsY7oTEQc และจงอธิบายถึงประวัติความเป็นมาของสถานีโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมไทยคม

ตอบ  สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ Distance learning Television (DLTV) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี โดยจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม  ถ่ายทอดสดหลักสูตรประถมศึกษา มัธยมศึกษา และสายวิชาชีพให้แก่โรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษา รวมทั้งการออกอากาศรายการภาคภาษาอังกฤษทางช่อง 81-95 (UBC) บริหารงานโดย มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ Distance learning foundation (DLF)

                   สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ดำเนินการออกอากาศ รายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา ใน 2 ลักษณะ ดังนี้

           1) การศึกษาในระบบโรงเรียน
           เป็นการจัดการศึกษา ตาม หลักสูตรการศึกษาในระบบโรงเรียน (Formal Education) ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ ในรายวิชาที่ขาดแคลนครูผู้สอน หรือเป็นรายวิชาที่มีเนื้อหาค่อนข้างยาก โรงเรียนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการฯ สามารถทำได้ โดยจัดหาเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ตามตารางเวลาที่ออกอากาศ

           2) การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการจัดการศึกษา เพื่อให้ข่าวสาร ข้อมูล ความรู้ และทักษะที่เป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วไป (Informal Education)
        การจัดการศึกษาผ่านดาวเทียม เพื่อการศึกษาตามอัธยาศัยนี้ กำหนดเนื้อหารายการ ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน และ ความต้องการของประชาชน ในการพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน


6. ให้นิสิต Post รูปภาพเกี่ยวกับโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาลงในWeblog







ดาวเทียมเพื่อการศึกษา








การศึกษาโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า








การศึกษาที่ใช้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต




แบบฝึกหัด สื่อมวลชนเพื่อการศึกษา


แบบฝึกหัด


☺สื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีกี่ประเภทอะไรบ้าง


ตอบ    6 ประเภท คือ



1.สิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร หนังสือ และสิ่งตีพิมพ์ประเภทอื่นๆ

2. ภาพยนตร์ ทั้งภาพยนตร์เรื่อง ภาพยนตร์สารคดี และภาพยนตร์ทางการศึกษาบางประเภท

3.วิทยุกระจายเสียง ได้แก่วิทยุที่ส่งรายการออกอากาศ ทั้งระบบ AM และ FM รวมไปถึง    

ระบบเสียงตามสาย

4.วิทยุโทรทัศน์ เป็นสื่อทางภาพและทางเสียงที่เผยแพร่ออกไป ทั้งประเภทออกอากาศและ  

ส่งตามสา

5.สื่อสารโทรคมนาคม เป็นผลจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี มีการส่งข้อความ เสียง 

ภาพ  ตัวพิมพ์ สัญลักษณ์ต่างๆ ได้หลากหลาย ครอบคลุมกิจการสื่อสารผ่านดาวเทียม 

โทรภาพ โทรพิมพ์

6.สื่อวัสดุบันทึก ได้แก่เทปบันทึกเสียง เทปบันทึกภาพ แผ่นบันทึกเสียง แผ่นบันทึกภาพ ซึ่ง

กลายเป็นสื่อมวลชน เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้สามารถผลิตเผยแพร่ได้มากและ

รวดเร็ว


      ☺คุณค่าของสื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ  สื่อมวลชนเปรียบเสมือนครู ที่ให้การศึกษาแก่ประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม 

ให้ทั้งความรู้ทางวิชาการใหม่ๆ และเจตคติในด้านต่างๆ ซึ่งถือได้ว่ามีความเป็นจริง

อย่างมากในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากสื่อมวลชนต่างๆ ได้แสดงบทบาทหน้าที่ทางด้าน

การศึกษาให้เห็นอย่างเด่นชัด


      ☺ให้นิสิตยกตัวอย่างสื่อมวลเพื่อการศึกษามา 1 รายการ พร้อมอธิบายประโยชน์  

            ของรายการนั้นๆ

ตอบ   รายการทีวี

ประโยชน์ของรายการทีวี คือ

1. เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถรับรู้ได้โดยไม่ต้องไปดูของจริง

2. เป็นการเรียนที่สามารถเรียนได้จากระยะไกล

3. ผู้เรียนสามารถนำสิ่งที่ได้จากรายการทีวีไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

4. ผู้เรียนสามารถเปิดช่องรายการทีวีที่ต้องการศึกษาได้จามที่ตนเองสนใจ

5. ผู้เรียนมีความสนใจเรียนมากขึ้น มีความสนุกที่อยากจะเรียน

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555










ศึกษาดูงานที่ สำนักงานหอสมุด

การที่ได้ไปศึกษางานที่สำนักงานหอสมุดรู้สึกตื่นเต้น เนื่องจากว่าทางสำนักงานหอสมุดมีทั้งหมด 7 ชั้น คือ
ชั้นที่ 1 เป็นชั้นรับประทานอาหาร จะมีโต๊ะมากมายสำหรับอ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือรับประทานอาหาร
ชั้นที่ 2 Book show Room มีหนังสือต่างประเทศ เป็นที่ยืม - คืน หนังสือ
ชั้นที่ 3 หนังสือภาษาไทย มี พ.ศ. 2541 - ปัจจุบัน,นวนิยาย เรื่องสั้น,หนังสือเด็ก
ชั้นที่ 4 วารสาร,หนังสือพิมพ์,จดหมายข่าว,สืบค้นวารสารอิเล็กทรอนิกส์,เครื่องถ่ายเอกสาร
ชั้นที่ 5 วิทพานิพนธ์,หนังสืออ้างอิง,จุลสาร,กฤตภาค,หนังสือหายาก
ชั้นที่ 6 สื่อโสตทัศน์,สื่ออิเล็กทรอนิกส์,เทปวีดิทัศน์,วิซีดี,ซีดีรอม-มัลติ,ห้องมินิโฮมเธียเตอร์
ชั้นที่ 7 
หนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมาร,หนังสือภาษาไทยก่อน พ.ศ. 2526 - 2540
 นอกจากนี้ เรารู้วิธีสืบค้นหาหนังสือจากห้องสมุดก่อนที่เราจะขึ้นไปหาตามชั้นต่างๆ
เมื่อเราอยู่ที่บ้านไม่ได้อยู่ที่มหาวิทยาลัยบูรพาสามารถใช้โปรแกรม VPN ในการเชื่อมต่อกับทางมหาลัยโดยไม่ต้องมาที่มหาลัยวิทยาลัยเอง แค่นี้เราก็สามารถสืบค้นข้อมูลต่างๆจากที่บ้านได้โดยไม่ต้องมาที่มหาวิทยาลัยบูรพา



วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555















ศึกษาดูงานที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

       เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม ดิฉันได้มีโอกาสไปศึกษานอกสถานที่ที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้ทั้งประสบการณ์ และความรู้ต่างๆ อาทิเช่น ราชาและราชินีแห่งท้องทะเล               ปลาเศรษฐกิจมีอะไรบ้าง   เต่าทะเลมีกี่ชนิด   หอยมีกี่ชนิด 
ปลาวาฬในประเทศไทยมีกี่ชนิด ฯลฯ
        นอกจากที่ดิฉันจะได้รับความรู้ต่างๆเกี่ยวกับสัตว์น้ำต่างๆแล้วยังรู้จักสื่อที่ทางสถาบันวิทยาศาสตร์นำมาใช้ในการให้ความรู้สำหรับผู้ที่ได้เข้าเยี่ยมชม หรือต้องการศึกษาเกี่ยวกับสัตว์น้ำต่างๆ เป็นสื่อที่น่าสนใจทำให้ผู้เยี่ยมชมหรือต้องการศึกษาตื่นตาตื่นใจ อาทิเช่น เป็นสื่อที่เป็นของจริง อาจจะเป็นปลาชนิดต่างๆ  หรืออาจจะเป็นหุ่นจำลองที่มีขนาดเท่าของจริง
ป้ายนิเทศต่างๆ  ฯลฯ






วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555


แบบฝึกหัด


1.ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กี่ประเภทอะไรบ้าง

ตอบ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2545 ได้ระบุไว้ในหมวด 9  ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ
1. สื่อโสตทัศน์
2. สื่อมวลชน
3. สื่ออิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม รวมคอมพิวเตอร์
4. สื่อที่เป็นแหล่งวิทยาการเช่น หอสมุด ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์  เป็นต้น


2. ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงหาภาพมาประกอบ

ตอบ  สื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปมี 4 ประเภท คือ

1.            สื่อไม่ใช้เครื่องฉาย

• สิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น หนังสือ  ตำราเรียน  คู่มือฯ         

             
               
            • ของจริงของตัวอย่าง
           


            • ของจำลองหุ่นจำลองขนาดเท่าหรือขยายเท่าของจริง


            

            • วัสดุกราฟิก เช่น แผนภาพ แผนภูมิโปสเตอร์ ภาพถ่ายภาพเขียน การ์ตูน


             



            • กระดานดำ กระดานขาว

            

            • กระดานแม่เหล็กกระดานผ้าสำลี


            

            • การศึกษานอกสถานที่


            



2.            สื่อที่ใช้เครื่องฉาย

• เครื่องฉายทึบแสง






• สไลด์





• วีดิทัศน์





3.            สื่อที่ใช้เครื่องเสียง

• วิทยุ

• เทปบันทึกเสียง



• แผ่นซีดี






4.            สื่อเชิงโต้ตอบ


• คอมพิวเตอร์




• บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน




• อินเตอร์เน็ต






• การสอนใช้เว็บเป็นฐานการสอนบนเว็บ





3. ประเภทของเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามประสบการณ์ เป็นของนักการศึกษาท่านใด และมีการจัดประสบการณ์จากนามธรรมไปสู่รูปธรรมโดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ใดไปประสบการณ์ใดจงอธิบาย

ตอบ  เอดการ์ เดล (Edgar Dale) ได้จัดแบ่งสื่อการสอนเพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างโสตทัศนูปกรณ์ และแสดงเป็นขั้นตอนของประสบการณ์การเรียนรู้และการใช้สื่อ นำมาสร้างเป็น กรวยประสบการณ์”  (Cone of Experience ) แบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้
     1. ประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นขั้นที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด เพราะผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากของจริง สถานที่จริง
     2. ประสบการณ์รอง ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงกับความจริงที่สุด
     3.ประสบการณ์นาฏกรรมหรือการแสดง เป็นการแสดงบทบาทสมมติ หรือการแสดงละคร
     4. การสาธิต เป็นการแสดงหรือกระทำประกอบคำอธิบาย
     5. การศึกษานอกสถานที่ ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ภายนอกที่เรียน
     6. นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ การจัดป้ายนิเทศ
     7.โทรทัศน์ ใช่ส่งได้ทั้งระบบวงจรเปิดหรือวงจรปิด การสอนจะเป็นการสอนสดหรือบันทึกลงบนวีดิทัศน์
     8. ภาพยนตร์ เป็นภาพที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ลงบนฟิล์ม
     9. การบันทึกเสียง วิทยุ ภาพนิ่ง เป็นการฟังหรือดูภาพโดยไม่ต้องอ่าน
    10. ทัศนสัญลักษณ์ เช่น แผนภูมิ แผนที่ แผนสถิติ
    11. วจนสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นขั้นนามธรรมมากที่สุด ได้แก่ ตัวหนังสือ เสียงพูด




การจากกรวยประสบการณ์นี้  เดลได้จำแนกสื่อเป็น 3 ประเภท คือ
     1. สื่อประเภทวัสดุ หมายถึง สื่อที่เก็บความรู้อยู่ในตัวเองจำแนกย่อยได้ 2 ลักษณะ
          1.1วัสดุประเภทที่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเองไม่จำเป็นใช้อุปกรณ์อื่นช่วย เช่น แผนที่ ลูกโลก รูปภาพ
          1.2วัสดุประเภทที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเองต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วย เช่น แผ่นซีดี ฟิล์มภาพยนตร์ สไลด์
     2. สื่อประเภทอุปกรณ์ หมายถึง สิ่งที่เป็นตัวกลางหรือตัวผ่านทำให้ข้อมูลถ่ายทอดออกมาให้เห็นหรือได้ยิน
     3. สื่อประเภทเทคนิคและวิธีการ หมายถึง สื่อที่มีลักษณะเป็นแนวความคิดหรือรูปแบบขั้นตอนในการเรียนการสอน


4.การสื่อสารหมายถึงอะไร

ตอบ    คำว่า  การสื่อสาร (communications)  มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาลาตินว่า  communis หมายถึง  ความเหมือนกันหรือร่วมกัน   การสื่อสาร (communication)    หมายถึงกระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร  ข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์  ความรู้สึก ความคิดเห็น ความต้องการจากผู้ส่งสารโดยผ่านสื่อต่าง ๆ ที่อาจเป็นการพูด การเขียน สัญลักษณ์อื่นใด การแสดงหรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไปยังผู้รับสาร ซึ่งอาจจะใช้กระบวนการสื่อสารที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม หรือความจำเป็นของตนเองและคู่สื่อสาร  โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกิดการรับรู้ร่วมกันและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกัน  บริบททางการสื่อสารที่เหมาะสมเป็น ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การสื่อสารสัมฤทธิ์ผล



5.สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในองค์ประกอบใด จงอธิบาย

ตอบ  เป็นสื่อและช่องทางเพราะเป็นสื่อกลางที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน เช่น สิ่งพิมพ์ กราฟิก สื่ออิเล็กทรอนิกส์



6.จงเขียนแบบจำลองของการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล มาพอเข้าใจ

ตอบ  เดวิด เค เบอร์โล (David K. Berlo) เสนอแบบจำลองการสื่อสารไว้    เมื่อปี พ.. 2503 โดยอธิบายว่า การสื่อสารประกอบด้วยส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการ คือ
            1. ต้นแหล่งสาร (communication source)
2. ผู้เข้ารหัส (encoder)
3. สาร (message)
4. ช่องทาง (channel)
5. ผู้ถอดรหัส (decoder)
6. ผู้รับสาร (communication receiver)
จากส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการนั้น เบอร์โล ได้นำเสนอเป็นแบบจำลองการสื่อสารที่รู้จักกันดีโดยทั่วไปว่า "แบบจำลอง SMCR ของเบอร์โล"(Berlo's SMCR Model)โดยเบอร์โลได้รวมต้นแหล่งสารกับผู้เข้ารหัสไว้ในฐานะต้นแหล่งสารหรือผู้ส่งสาร และรวมผู้ถอดรหัสกับผู้รับสารไว้ในฐานะผู้รับสาร แบบจำลองการสื่อสารตามแนวคิดของเบอร์โลนี้ จึงประกอบไปด้วย S (Source or Sender) คือ ผู้ส่งสาร M (Message) คือ สาร C (Channel) คือ ช่องทางการสื่อสาร R (Receiver) คือ ผู้รับสาร ซึ่งปรากฎในภาพต่อไปนี้





จากแบบจำลองการสื่อสารตามแนวคิดของเบอร์โลข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ส่งสาร (Source or S) คือ ผู้เริ่มต้นการสื่อสาร ทำหน้าที่ในการเข้ารหัส ซึ่งผู้ส่งสารจะทำหน้าที่ในการสื่อสารได้ดีเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติต่าง ๆ 5 ประการคือ
1. ทักษะในการสื่อสาร เช่น ความสามารถในการพูด การเขียน และ ความสามารถในการคิดและการใช้เหตุผล เป็นต้น
2. ทัศนคติ หมายถึง วิธีการที่บุคคลประเมินสิ่งต่าง ๆ โดยความโน้มเอียงของตนเองเพื่อที่จะเข้าถึงหรือเป็นการหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น ๆ เช่น ทัศนคติต่อตนเอง ต่อหัวข้อของการสื่อสาร ต่อผู้รับสาร ต่อสถานการณ์แวดล้อมการสื่อสารในขณะนั้น เป็นต้น
3. ความรู้ หมายถึง ความรู้ของผู้ส่งสาร ในเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ บุคคลหรือกรณีแวดล้อมของสถานการณ์การสื่อสารในครั้งหนึ่ง ๆ ว่ามีความแม่นยำหรือถูกต้องเพียงไร
4. ระบบสังคม ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมการสื่อสารของบุคคล เพราะบุคคลจะขึ้นอยู่กับกลุ่มทางสังคมที่ตนเองอยู่ร่วมด้วย
5. ระบบวัฒนธรรม หมายถึง ขนบธรรมเนียม ค่านิยม ความเชื่อ ที่เป็นของตัวมนุษย์ในสังคม และเป็นตัวกำหนดที่สำคัญในการสื่อสารด้วย เช่น การสื่อสารระหว่างบุคคลต่างวัฒนธรรมกัน อาจประสบความล้มเหลวได้เนื่องจากความคิดและความเชื่อที่มีไม่เหมือนกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร



7.อุปสรรคของการสื่อสารมีอะไรบ้าง

ตอบ  อุปสรรคในการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่ทำให้การสื่อสารไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ ของผู้สื่อสาร และผู้รับสาร   อุปสรรคในการสื่อสารอาจเกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการสื่อสาร ดังนั้นอุปสรรค ในการสื่อสารจากองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้

•อุปสรรคที่เกิดจากผู้ส่งสาร
 1.1  ผู้ส่งสารขาดความรู้ความเข้าใจและข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ต้องการจะสื่อ 
 1.2  ผู้ส่งสารใช้วิธีการถ่ายทอดและการนำเสนอที่ไม่เหมาะสม 
 1.3  ผู้ส่งสารไม่มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี และไม่เหมาะสม 
 1.4  ผู้ส่งสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการส่งสาร 
 1.5  ผู้ส่งสารขาดความพร้อมในการส่งสาร 
 1.6  ผู้ส่งสารมีความบกพร่องในการวิเคราะห์ผู้รับสาร


•อุปสรรคที่เกิดจากสาร
 2.1  สารไม่เหมาะสมกับผู้รับสาร อาจยากหรือง่ายเกินไป 
 2.2  สารขาดการจัดลำดับที่ดี สลับซับซ้อน ขาดความชัดเจน 
 2.3  สารมีรูปแบบแปลกใหม่ยากต่อความเข้าใจ 
 2.4  สารที่ใช้ภาษาคลุมเครือ ขาดความชัดเจน 



•อุปสรรคที่เกิดจากสื่อหรือช่องทาง
3.1  การใช้สื่อไม่เหมาะสมกับสารที่ต้องการนำเสนอ 
3.2  การใช้สื่อที่ไม่มีประสิทธิภาพที่ดี 
3.3  การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมกับระดับของการสื่อสาร 



•อุปสรรคที่เกิดจากผู้รับสาร
 4.1  ขาดความรู้ในสารที่จะรับ 
 4.2  ขาดความพร้อมที่จะรับสาร 
 4.3  ผู้รับสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ส่งสาร 
 4.4  ผู้รับสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสาร 
 4.5  ผู้รับสารมีความคาดหวังในการสื่อสารสูงเกินไป 






8.บทเรียน  e-Learning  เป็นส่วนใดขององค์ประกอบของการสื่อสาร
ตอบ  เป็นผู้ส่ง   ผู้รับ   สื่อกลาง   และข้อมูลข่าวสารสนเทศ




9.ครูบอยกำลังสอนเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษเรื่อง Grammar ด้วยวีดิทัศน์กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 จากข้อความดังกล่าวให้นิสิตเขียนแบบจำลองการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล


ตอบ  





10.การปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ณ หอประชุมธำรงบัวศรี เป็นการสื่อสารประเภทใด


ตอบ  การสื่อสารแบบกลุ่มใหญ่ (Large group Communication)